ไอ้หัวกัว วัวชนที่มีอนุสาวรีย์วัวตัวแรกของของตรัง
ทีเด็ดวัวชน ไอ้หัวกัว ยอดวัวชนตรัง – ชายชราจากตำบลบางเปา อ.กันตัง วาง “เกาะหัวควาย” วัวสุดรัก โชว์ฟอร์มเด็ดคว้าชัย 19 สมัยติด ดังนั้นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นจึงกลายเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่บ้านควนธงสี หมู่ที่. 6 อำเภอบางเปา อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง มีอนุสาวรีย์วัวหรือกระทิงเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และรู้จักกันโดยทั่วไปในหมู่คนอายุ 70-80 ปี สร้างขึ้นในปี 2535 หรือเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว
ตามแนวคิดของปากสมบูรณ์ รากรวี อดีตชาวนา ผู้ที่เคยประกอบอาชีพเลี้ยงโคพื้นเมืองถูกส่งมาจากจังหวัดต่างๆ ทางภาคใต้ มากถึงหัวละ 500-1,000 ตัว ก่อนจะถูกนำตัวไปที่ท่าเรือกันตัง แล้วส่งไปขายที่ประเทศอินโดนีเซีย คุณตรีจักร รักษ์วีร์ อายุ 60 ปี ครูโรงเรียนบ้านบางเปา และนายหนังตะลุง คณะตรีจักร ตะลุงบัณฑิต เล่าว่า พ่อของสมบุญได้คนเลี้ยงวัวมาจาก จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งปรากฏว่าอยู่ในสภาพดีจึงนำมารวมกันเพาะพันธุ์โคที่จังหวัดตรัง จนลูกวัวหัก แต่เพราะบนหน้าผากของเขา มีวงผมสีขาวงอกขึ้นมาเป็นวงกลม จึงได้ชื่อว่าเกาะหัวคัวเพราะมีรูปร่างคล้ายปลากระป๋อง จนกระทั่งประมาณปี พ.ศ. 2487 เมื่อลูกวัวแบนนี้โตเต็มวัย ถูกพาตัวไปแข่งขันทั่วภาคใต้เป็นเวลา 10 ปี ในศึก “เกาะหัวค้ว” สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ถึง 19 ครั้งติดต่อกัน เพราะกระทิงไม่สามารถทำอะไรได้จนถึงตอนนี้
จนถึงนัดที่ 20 ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่จะเล่นในสนามตามคำร้องขอของนายพล่าม และถูกจับคู่ชนกับ “เขาเทวา” ของอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในคืนก่อนเข้าสู่วงแหวน พ่อสมบูรณ์ ฝันว่าลาของเขาจะไม่แพ้วัวตัวใดในประเทศไทย นอกจากวัวนางไม้ ระหว่าง “วัวหัวควาย” ก่อนร่วงหล่นลงมา เธอยืนน้ำตาไหลอาบแก้ม หลังจากลงเล่นในเกมที่ 20 และต้องแพ้เป็นครั้งแรก
พ่อของสมบุญ ตัดสินใจยุติบทบาทวัวผู้เป็นที่รักในสังเวียนอย่างสมบูรณ์ และถูกนำตัวไปงานเลี้ยงจนสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2497 อย่างไรก็ตาม ไว้ทุกข์และแสดงความเคารพ บิดาจึงสร้างอนุสาวรีย์ถวายพระองค์ในปี พ.ศ. 2535 ที่บ้านคุณยาย นางช่วง รักษ์วีระ ซึ่งบัดนี้สิ้นพระชนม์แล้ว โดยทำกระทงขนาดเท่าของจริงกับแท่น โต๊ะหมู่บูชา ราวบันได และโคม ซึ่งจะบำเพ็ญกุศลและถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์และสรงน้ำพระพุทธรูปทุกวันที่ 14 เมษายนหรือวันสงกรานต์ของทุกปี
อ่านเพิ่มเติม ทีเด็ดวัวชน